ปัญหาการส่ง Email ไปยังปลายทางไม่สำเร็จ โดยเฉพาะผู้ใช้งาน Email Hosting หรือ Private Email Server ซึ่งเมื่อเกิดขึ้น หลายๆท่านมักคิดถึงปัญหา IP Blacklist เท่านั้นซึ่งปัญหาดังกล่าวเป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่งเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกจำนวนมาก และ DNS Server ติด Blacklist ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่น้อยคนนักจะคิดถึง
DNS คืออะไร
สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีความรู้ด้าน Network นักอาจจะไม่ค่อยเข้าใจความหมายหรือการทำงานของมันนัก ผู้เขียนขออธิบายง่ายๆดังนี้ DNS เหมือนตัวชี้ทิศทางของข้อมูล เช่น เมื่อมี Email ส่งมาที่ @domain.com แล้วจะให้ Email วิ่งไปที่ Server ใดต่อ ซึ่งหน้าที่ในการกำหนดเส้นทางนั้นถูกทำโดย DNS นั่นเอง (สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้การทำงานของ DNS)
โดยเราสามารถดู DNS ของ Domain เราได้จาก www.whois.com และใส่ชื่อ Domain เราลงไปตามภาพข้างล่างซึ่งแสดง DNS ของ Domain: thailandemailhosting.com คือ ns1.digitalocean.com, ns2.digitalocean.com, ns3.digitalocean.com
จะรู้ได้อย่างไรว่า DNS ติด Blacklist
หลังจากที่เราทราบแล้วว่า DNS Server ของเรา คือ ns1.digitalocean.com ให้เรานำ ns1.digitalocean.com ไป ping ก็จะได้ IP ออกมาตามภาพประกอบด้านล่าง
หลังจากนั้นให้เรานำ IP ดังกล่าว คือ 173.245.58.51 ไปทำการตรวจสอบใน เว็บไซต์ตรวจสอบ Blacklist หลังจากนั้นใส่หมายเลข IP ดังกล่าวลงไป
ซึ่งตามภาพจะแสดงภาพ (ตามลูกศร) ว่าไม่มีการติด Blacklist ของค่ายใดๆ แต่หากติด Blacklist จะมีเครื่องหมายเตือนอย่างชัดเจน
มีผลต่อการใช้งานอย่างไร
การที่ DNS Server ของ Domain นั้นติด Blacklist จะทำให้เกิดปัญหาการส่ง Email ไปยังหลายๆที่ ซึ่ง Mail Server ปลายทางหลายๆที่มักรับฟัง (Listen) หาก DNS Server ของผู้ส่ง (Sender DNS Domain) ติด Blacklist จะถูก Server ปลายทางตีกลับ (Reject) เพราะมองว่าไม่มีความน่าเชื่อถือหรือเคยมีประวัติการส่ง Spam มาก่อน เป็นต้น
ทำไม DNS Server ถึงติด Blacklist ได้
โดยปกติแล้ว DNS Server มีอัตราการติด Blacklist ที่ต่ำเพราะส่วนใหญ่ DNS Server มิได้มีหน้าที่ในการส่ง Email จึงไม่ก่อให้เกิดปัญหาติด Blacklist แต่มีผู้ให้บริการ Mail Server ส่วนหนึ่งที่อาจจะใช้ DNS Server ทำเป็น Web Hosting และ Email Server ด้วย ซึ่งเมื่อมี User ใด User หนึ่งส่ง Spam ออกไปทำให้ IP ของ DNS Server, Web Hosting และ Email Server ติด Blacklist ไปในเวลาเดียวกัน
แก้ปัญหาอย่างไร
การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นหน้าที่โดยตรงของผู้ให้บริการ Email Server หรือ DNS Server ที่ต้องแก้ไข ซึ่งอาจจะทำได้โดยเปลี่ยนหมายเลข IP (แต่ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องนัก) ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดคือต้องแยก DNS Server ออกจากการทำงานของทุกส่วน เพราะการที่ DNS Server ติด Blacklist จะส่งผลทำให้ผู้ที่ใช้งาน DNS Server ตนเองเกิดปัญหาตามมาจำนวนมาก หรือใช้งาน Premium DNS Server (แบบมีค่าใช้จ่าย) จะเกิดปัญหาเหล่านี้ได้ค่อนข้างน้อยมาก